อุปมาเหมือนผลไม้ร่วงจากต้น

อุปมาเหมือนผลไม้ร่วงจากต้น

เวลาที่ท่านอาจารย์พูดถึงเรื่องความตายของท่าน ท่านมักจะพูดเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้พิเศษกว่าเรื่องอื่นเลย ท่านพูดแนวตลกขบขันเสียด้วยซ้ำสำหรับท่าน แต่บรรดาศิษยานุศิษย์ไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลย พอนึกไปล่วงหน้าถึงวันที่ครูบาอาจารย์จะจากไปแล้ว ก็รู้สึกโดดเดี่ยวขาดที่พักพิง ขาดส่วนสำคัญของชีวิตไป ก็เลยพบได้เสมอๆ สำหรับคนที่ขอให้ท่านอาจารย์อยู่ต่อไปนานๆ แล้วก็มีคนเคยถามท่านอาจารย์ว่า คนเรานี้เมื่อเกิดมาอายุได้ถูกกำหนดมาตายตัวตั้งแต่เกิดเลยหรือไม่ท่านก็ตอบให้ฟังว่า

มันก็เหมือนกับผลไม้นั่นแหละ ทุกลูกต้องร่วงหล่นจากต้นด้วยกันทั้งนั้น บางทีมันสุกงอมแล้วถึงจะร่วงลงมา บางลูกลมพัดแรงหล่นลงมาตั้งแต่ยังไม่สุกยังไม่โต บางลูกคนก็เก็บเอาไปกิน ชีวิตคนมันก็เหมือนกันแหละ มันแล้วแต่เหตุปัจจัยที่จะสร้างให้เป็นไป ถ้าโรคน้อยมันก็ตายช้า ถ้าโรคมากมันก็ตายเร็ว อย่างเรานี่โรคมาก คนขี้โรคคุณดูสิ คนขี้โรคมันดูแก่ทุกคนแหละ เพราะโรคนี่มันเข้าไปเบียดเบียนร่างกายให้มันทรุดโทรมลงเรื่อยๆ จึงดูแก่ ความจริงอายุอย่างเราห้าสิบเก้า หกสิบนี่ยังใช้งานได้อีกเยอะ แต่เราขี้โรคเลยทำอะไรไม่ค่อยจะได้ แต่คุณสังเกตดูสิ คนไม่มีโรคไม่มีหรอก ต้องมีโรคด้วยกันทุกคน จะโรคมากหรือน้อยเทานั้นแหละ แต่โรคมากมันก็ตาย แค่มันตายเร็วกว่าพวกโรคน้อยเท่านั้นเอง ก็เกิดมาเพื่อตายนี่ ไม่ได้เกิดมาเพื่อมีชีวิตอยู่ พอมันถึงเวลาตายก็ต้องตาย

คัดลอกมาจากหนังสือ…นานาสาระธรรม
เรียบเรียงข้อมูลโดย…นายกวิน ตันทวีวงศ์ (จากธรรมะที่ได้รับฟังมา และรวบรวมไว้ในภายหลัง)

You May Also Like